คำบุพบท คือ คำที่ใช้นำหน้าคำหรือกลุ่มคำ คำนาม คำสรรพนาม คำวิเศษณ์ และคำกริยาบางคำ เพื่อบอกหน้าที่และความสัมพันธ์ของคำที่อยู่หลังบุพบทกับข้อความข้างหน้า
คำบุพบทแบ่งออกเป็น ๒ ชนิด คือ๑.บุพบทที่ไม่เชื่อมกับบทอื่น บุพบทชนิดนี้จะใช้อยู่หน้าคำหรือกลุ่มคำนามและสรรพนาม เพื่อแสดงการทักทาย หรือเป็นคำร้องเรียกเพื่อเกริ่นให้ผู้ฟังรู้สึกตัว คำบุพบทชนิดนี้มีใช้อยู่ในหนังสือรุ่นเก่า เช่น หนังสือเทศน์ หรือวรรณคดี เช่น เรื่องกามนิตก็มีใช้กันมาก แต่ปัจจุบันเกือบไม่มีใครใช้ ตัวอย่างเช่น
- ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เชิญท่านตามความพอใจเถิด…
- ดูก่อน อาคันตุกะ ท่านมาถือเพศเป็นผู้ละเคหสถานเพราะเหตุเป็นไฉน
๒.บุพบทที่เชื่อมกับบทอื่น ได้แก่ บุพบทที่นำหน้าคำหรือกลุ่มคำนาม สรรพนาม วิเศษณ์ และกริยาบางคำเพื่อบอกความสัมพันธ์ระหว่างคำที่อยู่หลังบุพบทกับความข้างหน้า คำบุพบทชนิดนี้แบ่งเป็นชนิดย่อยๆ ดังนี้
๒.๑ บุพบทนำหน้ากรรม ได้แก่คำ แก่ ซึ่ง เฉพาะ เช่น
- เสื้อตัวนี้ฉันถักให้เฉพาะเธอ
- คุณครูให้รางวัลแก่นักแสดงรุ่นเยาว์
- จงให้อภัยซึ่งกันและกัน
๒.๒ บุพบทนำหน้าบทเพื่อบอกความเป็นเจ้าของ ได้แก่ ของ แห่ง เช่น
- สมุดของฉันหาย
- พนักงานของบริษัทนี้ทำงานเข้มแข็ง
- สถาบันอุดมศึกษาแห่งชาติเป็นของรัฐบาล
๒.๓ บุพบทนำหน้าบทเพื่อแสดงความเป็นผู้รับ ได้แก่ แก่ แด่ ต่อ เพื่อ สำหรับ เช่น
- ที่นั่งสำหรับผู้สูบบุหรี่ไม่มีคนนั่งเลย
- เขาแถลงข่าวต่อผู้สื่อข่าวในทำเนียบรัฐบาล
- เราทำดีเพื่อความก้าวหน้าของตัวเราเอง
๒.๔ บุพบทนำหน้าบทเพื่อบอกลักษณะ เป็นเครื่องใช้ หรือติดต่อกัน ได้แก่ ด้วย โดย ตาม เฉพาะ เช่น
- เขากระโดดลงจากรถโดยเร็ว
- เธอทำดอกไม้ด้วยผ้ากำมะหยี่
- เขาได้ดีเพราะเธอ
๒.๕ บุพบทนำหน้าบทเพื่อบอกเวลา ได้แก่ กระทั่ง จน จนกระทั่ง เมื่อภายใน ใน ณ แต่ ตั้งแต่ ฯลฯ เช่น
- เขาทำงานตั้งแต่เช้าจนค่ำ
- คุณครูให้ส่งการบ้านภายในวันนี้
- ฝนตกหนักมากเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว
๒.๖ บุพบทนำหน้าบทเพื่อบอกสถานที่ ได้แก่ ที่ ใต้ บน เหนือ ใกล้ ไกล ริม ข้าง ฯลฯ เช่น
- คุณพ่อรับราชการที่จังหวัดตรัง
- เธอชอบนั่งริมหน้าต่าง
- เครื่องบินบินอยู่เหนือน่านฟ้าไทย
๒.๗ บุพบทนำหน้าบทเพื่อบอกประมาณ ได้แก่ เกือบ ตลอด ราว สัก ชั่ว เช่น
- งานนี้เขาทำชั่วปิดภาคเรียนเท่านั้น
- เธอทำงานวันละเกือบ 12 ชั่วโมง
- คุณพ่อเพิ่งออกจากบ้านไปราวครึ่งชั่วโมงนี้เอง
- ใครสักคนมาช่วยครูลบกระดานหน่อย
ข้อสังเกต
๑. คำบุพบทต่างจากคำวิเศษณ์ตรงที่คำบุพบทสามารถอยู่ท้ายข้อความหรือท้ายประโยคได้ แต่บุพบทต้องอยู่หน้าคำหรือกลุ่มคำ เช่น
- บ้านของเขาอยู่ใกล้มาก (วิเศษณ์ ขยาย อยู่)
๒.คำบุพบทที่นำหน้าคำกริยา มักเป็นกริยาสภาวมาลา คือกริยาที่ละ “การ” ไว้ เช่น
- เขามีชีวิตเพื่อทำงาน (การทำงาน)
- จงกินเพื่ออยู่ แต่อย่าอยู่เพื่อกิน (การอยู่ – การกิน)
๓.ส่วนที่อยู่หลังบุพบทต้องเป็นคำหรือกลุ่มคำเท่านั้น จะเป็นประโยคไม่ได้
หน้าที่ของคำบุพบท
คำบุพบทมีหน้าที่นำหน้าคำหรือกลุ่มคำต่อไปนี
๑.นำหน้าคำหรือกลุ่มคำนาม เช่น
- แม่ถนอมได้รับจดหมายจากนายเสริมพี่ชาย
- อ้ายเสริม เอ็งกะข้ามาสู้กันด้วยเกียรติยศของผู้ชาย
- จงทำดีเพื่อความดี
๒.นำหน้าคำหรือกลุ่มคำสรรพนาม เช่น
- ขอพรนี้จงสัมฤทธิ์ผลแด่ท่านผู้เจริญ
- ฉันต้องมาที่นี่ทุกวันเสาร์
- เขาแต่งกลอนบทนี้มอบให้แก่เธอ
๓.นำหน้าคำหรือกลุ่มคำวิเศษณ์ เช่น
- การสื่อสารสมัยนี้ทำได้โดยสะดวกรวดเร็ว
- เธอต้องให้การต่อศาลไปตามจริง
๔.นำหน้าคำกริยาสภาวมาลา เช่น
- เขาวิ่งเพื่ออกกำลังกาย (ละ “การ” หน้ากริยา)
- เขาเป็นมะเร็งเพราะสูบบุหรี่จัด (ละ “การ” หน้ากริยา สูบบุหรี่)
ข้อสังเกต
๑.การพิจารณาคำบุพบทต้องดูหน้าที่ของคำเป็นหลัก เพราะคำต่างชนิดกันจะทำหน้าที่ต่างกันและมีความหมายต่างกัน เช่น
- เขาเป็นคนแก่ (วิเศษณ์)
- เขาให้เงินแก่คนขอทาน (บุพบท)
- คุณลุงแก่มากแล้ว (กริยา)
- เขาให้ความเป็นกันเองแก่แขกผู้มาเยี่ยมเยียน (สันธาน)
๒.คำ “ที่” จะเป็นคำบุพบทเมื่อนำหน้าคำนามหรือสรรพนาม แต่ถ้าทำหน้าที่แทนนามข้างหน้าจะเป็นคำสรรพนามเชื่อมประโยค ซึ่งจะทำหน้าที่เหมือนคำสันธาน เช่น
- แม่ไปซื้อของที่ตลาด (บุพบท)
- แมวที่โรงเรียนชื่อเจ้าน้ำหวาน (บุพบท)
- คนที่ซื้อขนมหน้าโรงเรียนต้องถูกลงโทษ (สันธาน)
- ฉันให้เสื้อผ้าแก่นักเรียนที่บ้านถูกไฟไหม้ (สันธาน)
ที่มา : http://www.tlcthai.com/education/knowledge-online/15343.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น